การนับเลขภาษาจีน
การอ่านตัวเลขในภาษาจีน ตอนที่ 1
วันนี้จะเริ่มต้นกันที่ ตัวเลข หรือการนับเลขในภาษาจีนกลางกันครับ ซึ่งบางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าการอ่านตัวเลขตามป้ายราคาสินค้า หรือการนับเลขในภาษาจีนกลางที่เราสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันนั้นเป็นอย่างไร และจะยากหรือไม่ ลองมาดูกันนะครับกับ การอ่านตัวเลขในภาษาจีน ตอนที่ 1
หลักหน่วย
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
0 |
一 |
二 |
三 |
四 |
五 |
六 |
七 |
八 |
九 |
零 |
yī |
èr |
sān |
sì |
wǔ |
liù |
qī |
bā |
jiǔ |
ling |
(อี) |
(เอ้อร์) |
(ซาน) |
(ซื่อ) |
(อู่) |
(ลิ่ว) |
(ชี) |
(ปา) |
(จิ่ว) |
(หลิง) |
หลักสิบ
10 |
20 |
30 |
40 |
50 |
60 |
70 |
80 |
90 |
十 |
二十 |
三十 |
四十 |
五十 |
六十 |
七十 |
八十 |
九十 |
shí |
èrshí |
sānshí |
sìshí |
wǔshí |
liùshí |
qīshí |
bāshí |
jiǔshí |
(สือ) |
(เอ้อร์ สือ)
|
(ซาน สือ)
|
(ซื่อ สือ)
|
(อู่ สือ)
|
(ลิ่ว สือ)
|
(ชี สือ)
|
(ปา สือ)
|
(จิ่ว สือ)
|
หลักร้อย
100 |
200 |
300 |
400 |
500 |
600 |
700 |
800 |
900 |
一百 |
二百、两百 |
三百 |
四百 |
五百 |
六百 |
七百 |
八百 |
九百 |
yībǎi |
èrbǎi,liǎngbǎi |
sānbǎi |
sìbǎi |
wǔbǎi |
liùbǎi |
qībǎi |
bābǎi |
jiǔbǎi |
(อี ป่าย) |
(เอ้อร์ ป่าย,เหลียง ป่าย) |
(ซาน ป่าย) |
(ซื่อ ป่าย)
|
(อู๋ ป่าย)
|
(ลิ่ว ป่าย)
|
(ชี ป่าย)
|
(ปา ป่าย)
|
(จิ่ว ป่าย) |
ข้อสังเกต
กรณีการอ่าน 200 500 และ900 จากคำอ่านภาษาไทย จะเห็นได้ว่าวรรณยุกต์ไม่ตรงกับตัวพินอิน(ตัวอ่านภาษาจีนที่เป็นอักษรโรมัน) เพราะในกฎการผันเสียงวรรณยุกต์ของภาษาจีนนั้นมีอยู่ว่าเมื่อเสียงสามชนกับเสียงสาม เวลาที่อ่านคำแรกหรือคำที่อยู่ด้านหน้าจะผันเป็นเสียงสองทันที แต่รูปการเขียนไม่เปลี่ยนแปลง
***วิธีการอ่าน และนับจำนวนเพิ่มเติม
การอ่านหลักสิบ ให้อ่านจำนวนหลักสิบก่อน แล้วตามด้วยหลักหน่วย ดังนี้
11 = 十一 shíyī (สือ อี)
25 = 二十五 èrshíwǔ (เอ้อร์ สือ อู่)
44 = 四十四 sìshísì (ซื่อ สือ ซื่อ)
การอ่านหลักร้อย ให้อ่านจำนวนหลักร้อยก่อน แล้วตามด้วยหลักสิบกับหลักหน่วย ดังนี้
120 = 一百二十 yībǎi èrshí (อีป่าย เอ้อร์ สือ)
145 = 一百四十五 yībǎi sìshíwǔ (อีป่าย ซื่อ สือ อู่)
และจะแบ่งออกเป็นกรณีพิเศษ ดังนี้
- เมื่ออ่านตัวเลขหลักร้อยที่มีเลข “0” อยู่ตรงกลาง
101 = 一百零一 yībǎi líng yī (อีป่าย หลิง อี)
409 = 四百零九 sìbǎi líng jiǔ (ซื่อป่าย หลิง จิ่ว)
- เมื่ออ่านตัวเลขที่ขึ้นต้นด้วยเลข “2” ตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไป
200 = 两百 liǎng bǎi (เหลียงป่าย)
222 = 两百二十二 liǎngbǎi èrshíèr (เหลียงป่าย เอ้อร์สือเอ้อร์)
2,008 = 两千零八 liǎng qiān líng bā (เหลี่ยงเชียน หลิง ปา)
250,000 = 二十五万 èrshíwǔ wàn (เอ้อร์สืออู่วว่าน)
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับการอ่านตัวเลข 1-100 เป็นภาษาจีน ไม่ยาก แล้วก็ไม่ง่ายไปซะทีเดียวใช่รึเปล่าครับ เหล่าซือของผู้เขียนมักจะบอกเสมอว่า การเรียนรู้ภาษาต้องฝึกฝนบ่อยๆ พอเริ่มชิน เราก็จะได้ภาษานั้นๆเองนะครับ
การอ่านตัวเลขในภาษาจีน ตอนที่ 2
สวัสดีครับ เกร็ดความรู้ภาษาจีนกลับมาพบทุกท่านอีกแล้วนะครับ เมื่อครั้งที่แล้ว ผู้เขียนยกเรื่องตัวเลขมาเพื่ออธิบายให้ผู้อ่านได้ทราบกัน ซึ่งเป็นการอ่านหรือบอกจำนวน 1-100 ในภาษาจีนที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้กันไปแล้ว และครั้งนี้เราจะไปที่จำนวนต่อไปกันเลยนะครับ จะมีความยากง่าย แตกต่างจากเดิมอย่างไร มาเริ่มกันเลยครับ
หลักพัน
1,000 一千 yīqiān (อี้ เชียน)
หลักหมื่น
10,000 一万 yī wàn (อี๋ ว่าน)
หลักแสน
100,000 十万 shí wàn ( สือ ว่าน)
200,000 二十万 èrshí wàn (เอ้อร์ สือ)
หลักล้าน
1,000,000 一百万 yībǎi wàn (อี ป่าย ว่าน)
ข้อสังเกต
จะเห็นได้ว่าคำอ่านภาษาไทยของตัวเลขที่ยกตัวอย่างในหลักพัน และหลักหมื่น เสียงวรรณยุกต์ก็จะต่างไปจากเดิม สาเหตุมาจากกฎการผันเสียงวรรณยุกต์ของเลข 1 ครับ ในกรณีของหลักพัน คือ เสียงวรรณยุกต์เสียงที่หนึ่งของเลข 1 ชนกันกับเสียงหนึ่งของคำหลัง เวลาอ่านจึงผันเป็นเสียงที่สี่ทันที ดังนั้น อีเชียน จึงออกเสียงเป็นอี้เชียน ส่วนในหลักหมื่นก็คือ เสียงหนึ่งชนกับเสียงสอง จึงผันเป็นเสียงสองทันที ดังนั้น อีว่าน จึงออกเสียงเป็น อี๋ว่าน พอผันเสียงแบบนี้แล้ว ดูฟังง่าย และออกเสียงง่ายกว่ากันเยอะเลยใช่รึเปล่าครับ
รูปภาษามือบอกตัวเลขของจีน
**วิธีการอ่าน และนับจำนวนเพิ่มเติม
การอ่านเลข 2 จะมีอยู่สองกรณี
1. 二 èr (เอ้อร์) มักจะเจอในการอ่านหรือ การนับจำนวนหลักหน่วย และหลักสิบ แล้วทำไมใน
หลักแสนที่ยกตัวอย่างมา ถึงอ่านว่า เอ้อร์สืออู่วว่าน (250,000) กันล่ะ? นั่นเป็นเพราะว่าการอ่านหลักแสนในภาษาจีน จะใส่จุดไว้หน้าหลักพัน (ซึ่งตัวที่อยู่ด้านหน้าหลักพันคือหลักหมื่น หรือก็คือ 万ว่าน นั่นเอง)แล้วนับขึ้นไปว่าตัวเลขตัวซ้ายมือสุดอยู่ในหลักใด ตามตัวอย่างคือ 250000 >> 25.0000 ซึ่งเมื่อใส่จุดแล้ว เลข 2 จะถูกเทียบอยู่ในหลักสิบ ดังนั้นจึงอ่านว่า เอ้อร์สืออู่วว่าน 二十五万
- 两liǎng (เหลี่ยง) มักจะใช้อ่านจำนวนนับ ซึ่งรวมไปถึงคน สัตว์ สิ่งของด้วย เช่น
两个人 liǎng gèrén (เหลี่ยงเก้อเหริน) (คน) 2 คน
三本书 sān běn shū (ซานเปิ่นชูว) หนังสือ 3 เล่ม
一只狗 yī zhī gǒu (อี้จือโก่ว) สุนัข 1 ตัว
การอ่านหลักพัน ให้อ่านจำนวนหลักพันก่อน แล้วตามด้วยหลักร้อย หลักสิบ และหลักหน่วย ดังนี้
1,200 = 一千两百 yīqiān liǎng bǎi (อี้เชียน เหลียงป่าย)
2,340 = 两千三百四十 liǎngqiān sānbǎi sìshí (เหลี่ยงเชียน ซานป่าย ซื่อสือ)
การอ่านหลักหมื่น หลักแสน และหลักล้านเป็นต้นไป ให้อ่านตามลำดับ ดังนี้
31,223 = 三万一千两百二十三 sānwàn yīqiān liǎngbǎi èrshísān (ซานว่าน อี้เชียน เหลียงป่าย เอ้อร์สือซาน)
955,555 = 九十五万五千五百五十五 jiǔshíwǔ wàn wǔqiān wǔbǎi wǔshíwǔ (จิ่วสืออู่วว่าน อู่วเชียน อู๋วป่าย อู่วสืออู่ว)
2,341,234 = 两百三十四万一千两百三十四 liǎng bǎi sānshísìwàn yīqiān liǎngbǎi sānshísì (เหลียงป่าย ซานสือซื่อว่าน อี้เชียน เหลียงป่าย ซานสือซื่อ)
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอจะเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของตัวเลขและการอ่านจำนวนกันบ้างรึยัง หลายๆท่านคงจะยังสงสัยว่า แล้วตัวเลขหรือพวกการอ่านจำนวนมีความจำเป็น หรือความสำคัญอย่างไร ตอบได้ง่ายๆเลยครับว่าสำคัญสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันมาก และการอ่านตัวเลขเหล่านี้ ยังเชื่อมไปถึงอีกหลายๆหัวข้อที่กำลังจะตามมา รอติดตามกันได้นะครับ
การใช้ลักษณะนามในภาษาจีน คือ ลักษณะนามคือคำที่ใช้ประกอบคำนามของคน สัตว์ สิ่งของ เรื่องราวและบ่งบอกการกระทำ ลักษณะนามภาษาจีนแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ
1. ลักษณะนามประกอบคำนาม เช่น
ตัวจีน 一本书
พินอิน Yī běn shū
แปลว่า หนังสือ 1 เล่ม
ตัวจีน 三个人
พินอิน Sān gèrén
แปลว่า คน 3 คน
ตัวจีน 两份饺子
พินอิน Liǎng fèn jiǎozi
แปลว่า เกี๊ยว 2 จาน
ตัวจีน 六杯啤酒
พินอิน Liù bēi píjiǔ
แปลว่า เบียร์ 6 แก้ว
วิธีการจำง่ายๆ :
จำนวน + ลักษณะนาม + คำนาม
2. ลักษณะนามบอกการกระทำ เช่น
ตัวจีน 说一遍
พินอิน Shuō yībiàn
แปลว่า พูดอีกรอบ
ตัวจีน 去一次
พินอิน Qù yīcì
แปลว่า ไปอีกครั้ง
ตัวจีน 跑三趟
พินอิน Pǎo sān tàng
แปลว่า วิ่ง3รอบ
คำลักษณะนามที่ใช้บ่อยมีดังนี้
คำที่ 1 件
ส่วนใหญ่ใช้เกี่ยวกับ เสื้อผ้า เรื่องราว
ตัวอย่างประโยค เช่น
一件衣服
พินอิน Yī jiàn yīfú
แปลว่า เสื้อผ้า 1 ชิ้น
เช่น 一件事
พินอิน Yī jiàn shì
แปลว่า เรื่อง 1 เรื่อง
คำที่ 2 条
ส่วนใหญ่ใช้กับสิ่งของ ที่มีลักษณะเรียวยาว
ตัวอย่างประโยค เช่น
一条裤子
พินอิน Yītiáo kùzi
แปลว่า กางเกง 1 ตัว
เช่น 一条河
พินอิน Yītiáo hé
แปลว่า แม่น้ำ 1 สาย
เช่น 一条路
พินอิน Yītiáo lù
แปลว่า ถนน 1 สาย
****************************
โค้ชไฮ้ – ผู้เขียน/ผู้เรียบเรียง/ผู้แปล เป็นโค้ช/ติวเตอร์สอนภาษาจีน จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยะธุรกิจระหว่างประเทศและเศรษฐศาสตร์ (University of International Business and Economics: 对外经济贸易大学 ; UIBE ) เชี่ยวชาญการสอนการสนทนาภาษาจีนแบบเร่งรัดตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ภาษาจีนสำหรับผู้ใหญ่วัยทำงาน การเตรียมภาษาจีนสำหรับแอร์โฮสเตส-สจ๊วต ภาษาจีนธุรกิจและอุตสาหกรรมบริการต่างๆ ทั้ง การท่องเที่ยว การโรงแรม ธุรกิจนวดสปา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการติวสอบวัดระดับภาษาจีน